01 อัพโหลดสินค้า (Products)

แนะนำการอัพสินค้าแบบสะดวกและง่ายที่สุดดังนี้

  1. คลิกไปที่แถบด้านขวา Products > All Products
  2. นำเมาส์ Hover ไปที่ Product Template (Draft)

3. คลิกที่ > Duplicate (จากนั้นระบบจะ redirect ไปที่หน้าสินค้าที่เราทำการ Duplicateมา สังเกตจากชื่อ title copy)

4. แก้ไข / เพิ่มเติมข้อมูลสินค้าที่จะอัพโหลดดังต่อไปนี้

  • Title = ชื่อสินค้า
  • Permalink = Url สินค้า (มีผลกับ SEO)
  • Product Description = ใส่ข้อมูลสินค้า เช่น Model, Material & Care Instructions
  • Product Image = รูปภาพหน้าปกสินค้า (w800 x h1026 px) ไฟล์ภาพไม่เกิน 150kb
  • Product Gallery = ภาพสินค้า ไม่จำกัดจำนวน (w800 x h800 px) ไฟล์ภาพไม่เกิน 100kb
  • Product Categories = หมวดหมู่สินค้า (ติ๊กได้มากกว่า 1 )
  • Product Subcategories = หมวด Subcategories (ติ๊กได้มากกว่า 1 )
  • Product Tag = ใส่ tag (seo) ที่เกี่ยวข้อง
  • Brand = แบรนด์
  • Product Collection = คอลเลคชั่นสินค้า
  • Video Gallery for Woocommerce = ใส่วิดีโอเข้าไปในสินค้า
  • Stock Manager / JetWooBuilder Templates Setting = ห้ามปรับ
  • Product Short Description = คำอธิบายเกี่ยวกับสินค้าแบบย่อ (แนะนำว่าไม่ควรใส่ยาวไป ดูได้ที่ตัวอย่างสินค้าด้านขวา)

ส่วนด้านล่างนี้จะเป็นส่วนสำคัญเกี่ยวกับสินค้า Product Data

  • General = เป็นแทบตั้งค่าภาษีสินค้า (แนะนำว่าไม่ต้องแก้ไข)
  • Inventory
    – SKU
    – Stock Management = (ติ๊ก) กรณีที่ให้เปิดใช้งานฟังก์ชั่น การตัดสต๊อก, ระบบจัดการต่าง ๆ
    – Quantity = จำนวนสินค้า
    – Allow backorders = กรณีที่สินค้าหมดต้องการให้เปิดลงชื่อไว้หรือไม่ (กรณีที่สินค้ามีการอัพเดท stock เข้ามาจะแจ้งไปหาลูกค้า)
    Do Not allow = ไม่เปิดให้ลงชื่อ
    Allow, but notify customer = ยอมให้ลงชื่อ ถ้าสินค้าอัพเดทมาจะแจ้งไปหาลูกค้าที่ลงทะเบียนไว้
    Allow = ยอมให้ลงชื่อ (อารมณ์แบบติดต่อกลับเอง)
    – Low Stock Threshold = จำนวนที่ต้องการให้แจ้งเตือนกรณีที่สินค้าหมด
    – Sold Individually = (ติ๊ก) ถ้าต้องการลิมิตให้ซื้อได้แค่ 1 ชิ้นต่อออเดอร์
  • Shipping = น้ำหนักสินค้า , ขนาด มีผลกับการตั้งค่าจัดส่ง ถ้าไม่มีข้อมูลแนะนำไม่ต้องใส่นะครับ
  • Linked Product = ไว้ใส่สินค้าพวก Upsells , Cross-sells เพื่อเพิ่มการขาย

  • Attributes = ความหลากหลายของสินค้า ตอนนี้ผมเซ็ตอัพระบบเป็น Color , Size
    – Color , Size กรณีที่มีเพิ่มมากกว่าที่ตั้งค่าไว้ให้ลบและกดพิมพ์เพิ่มไปได้เลย ตรงช่อง Value(s)
    – จากนั้นกดปุ่ม > Save Attributes

  • Variations = รายละเอียดของสินค้าแบบย่อย โดยส่วนนี้จะคล้ายๆ กับรายละเอียดด้านบนที่แจ้งไว้เลย แตกต่างตรงที่ว่าค่อนข้างละเอียดไปแต่ละตัวย่อย ไม่ว่าจะเป็นสี, ไซส์
    เมนูเพิ่มเติมส่วนนี้จะมีดังนี้
    – Regenerate Variations (ควรกด (1ครั้ง) ก่อนเริ่มทุกครั้ง ในกรณีที่เพิ่มหรือปรับ Attributes ใหม่ )
    – Add Manually = ทำเอง ตั้งค่าทีละอันเอง (ไม่แนะน) เพราะเราใช้คำสั่ง Regenerate ให้แล้ว
    – Bulk actions = กรณีที่ต้องการปรับแต่ละส่วนภายในครั้งเดียวพร้อมกัน ไม่อยากมาแก้ใหม่ทีละอัน เช่นตั้งค่าสินค้าราคาปกติ , ราคาลด , จำนวน ฯลฯ
  1. การเข้าไปแก้ไขสินค้าย่อยในแต่ละตัวให้คลิกไปที่ > Edit มุมขวามือของรายการ
  2. พบกับรายละเอียดของสินค้าย่อย โดยประกอบไปด้วยข้อมูลดังนี้
    – SKU = รหัสสินค้า (ห้ามซ้ำ)
    – Image = ใส่ภาพสินค้าย่อย
    – Enabled = เปิด/ปิด สินค้าตัวนี้
    – Downloadable / Virtual = ไม่ติ๊ก
    – Manage Stock = (ติ๊ก) ระบบคลังสินค้า
    – Regular Price = ราคาสินค้า
    – Sale Price = ราคาลดสินค้า
    – Stock quantity = จำนวนสินค้า
    – Allow Backorders = คล้ายกับด้านบนที่แจ้งไว้ คือการลงจองสินค้า
    นอกนั้น ถ้ามีข้อมูลสามารถใส่เพิ่มเติมได้เลย เช่นน้ำหนัก , ขนาด กรณีที่ไม่มีให้ปล่อยวางไว้แบบเดิมครับ

3. เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้กด > Save Changes

ไปกันต่อที่ส่วนของ Swatches
Color ในรูปแบบ (Color,Image Swatch เท่านั้นนะครับ) แนะนำใช้เป็น Image ในกรณีที่มีลายผ้า ขนาด 50x50px

  1. คลิกเลือก image, Color
  2. Shape = Default
  3. Size = Default
  4. เปลี่ยนหรือเพิ่มภาพเข้าไปในสีที่มี คลิก > Edit
  5. ส่วนนี้จะเซฟให้อัตโนมัตินะครับ
  • Size Guide = เป็น Template Center Size Dimension ที่สร้างไว้ในตัว Product – Size Guide นำมาเลือกตรงนี้
    Default คงไว้แบบเดิมนะครับ
  • Advanced = กรณีที่สินค้ามีรายละเอียด Noted และกรณีที่เป็นสินค้าใหม่ต้องการใส่ Badge New สามารถติ๊กตรง New Product? ได้เลย

เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ดูที่แถบด้านขวาได้เลยนะครับ

  • Save Draft = เป็นปุ่มบันทึกสินค้าไว้เป็น Draft ก่อนยังไม่เอาแสดงหน้าเว็บ
  • ปุ่ม Preview = คลิกปุ่มนี้หากเราอยากดูว่าสินค้าจะแสดงหน้าเว็บอย่างไร
  • Status = สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งมีอยู่ 2 สถานะ คือ Pending Review กับ Draft ถ้าเลือก Pending Review แล้วคลิกปุ่ม OK ด้านข้าง ปุ่ม Save Draft จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Save Pending Review แทน ซึ่งหมายความว่า บันทึกสินค้านี้ไว้รอคนมาตรวจ ถ้าเลือก Draft แล้วคลิกปุ่ม OK ด้านข้าง ปุ่ม Save Draft ก็จะเป็นปุ่ม Save Draft เหมือนเดิม
  • Visibility = กำหนดรูปแบบการแสดงสินค้า ซึ่งมีตัวเลือกย่อย 3 ตัวเลือก Public ใครๆก็ดูได้, Password Protect ต้องป้อนรหัสผ่านจึงจะสามารถดูได้, Private บุคคลทั่วไปไม่สามารถดูได้ ยกเว้นแอดมินเท่านั้น
  • Publish Immediatly สามารถระบุได้ว่าจะให้สินค้านี้แสดงหน้าเว็บตอนนี้เลย หรือว่า ตั้งเวลาแสดงล่วงหน้า ถ้าหากอยากตั้งเวลาแสดงหน้าเว็บล่วงหน้า ให้คลิก Edit ด้านหลัง Publish Immediatly แล้วระบุวันเวลาที่ต้องการ

    ปุ่ม Publish สำหรับบันทึกและเผยแพร่สินค้าขึ้นหน้าเว็บ เสร็จเรียบร้อย
Share this Doc

01 อัพโหลดสินค้า (Products)

Or copy link

Scroll to Top